วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2561

2การพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
     การพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีจำเป็นต้องใช้แนวคิดเชิงคำนวณเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างเป้นระบบเพื่อให้โครงงานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย การพัฒนาโครงงานใดๆ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีขั้นตอนเบื่องต้น 6 ขั้นตอน ดังนี้ กำหนดปัญหา วิเคราะห์ระบบ ออกแบบระบบ พัฒนาระบบ และทดสอบระบบ ติดตั้งระบบ และบำรุงรักษาระบบ

2.1 กำหนดปัญหา
     กำหนดปัญหา วิเคราะห์ความเป็นไปได้และวางแผน คือ ขั้นตอนที่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ทำการวิเคราห์ตวามเป็นไปได้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ว่าจะสามารถดำเนินการได้สำเร็จหรือไม่ภายใต้ปัจจัยต่างๆ

1)ประชุมทีมงาน คือ การประชุมทีมงานผู้พัฒนา เพื่อกำหนดหน้าที่ให้แก่ทีมงานกำหนดลักษณะการทำงาน



2)กำหนดแผนงาน คือ ขั้นตอนการจัดการดำเนินงานซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ของขั้นตอนการวิเคราะฆ์ความเป็นไปได้และการวางแผน

2.2 วิเคราะห์ระบบ
    คือขั้นตอนการทำความเข้าใจกับระบบงาน ทั้งระบบงานปัจจุบันและระบบงานที่จะพัฒนาขึ้นมาแทนที่ หรือระบบงานที่ตั้งพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยการทำความเข้าใจระบบงานนั้นจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลปัญหาและความต้องการต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาขอบเขตของระบบงานใหม่ ฟังก์ชันงานต่างๆ และฟังก์ชันงานเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับบุคลากรใดบ้าง รวมถึงจัดทำเอกสารการวิเคราะห์ระบบ โดยขั้นตอนการวิเคราะห์เหล่านี้ ยังไม่จำเป็นต้องระบุวิธีการทำงาน ๙ึ่งขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบมีขั้นตอนย่อย ดังนี้

1)สัมภาษณ์ผู้ใช้งาน คือ ขั้นตอนที่ต้องลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้ใช้งานเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ

2)วิเคราะห์ปัญหาและความต้องการ คือ หลังจากาารสัมภาษณ์ผู้ใช้งานเพื่อเก็บข้อมูลแล้วทีมผู้พัฒนาควรนำข้อมูลที่ได้จาการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์หาข้อมูล

3)กำหนดขอบเขตของระบบ คือ การกำหนดขอบเขตการพัฒนาระบบงานใหม่ โดยต้องกำหนดว่าจะดำเนินการทำอะไรบ้าง ไม่ทำอะไรบ้าง ระบบงานใหม่มีฟังก์ชันงานอะไรบ้าง ไม่ครอบคลุมอะไรบ้าง และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง

4)วิเคราะห์กลุ่มกระบวนการทำงาน  (grouping process)และกลุ่มรับข้อมูล (grouping data) คือ ขั้นตอนการวิเคราะหืเพื่อหารกระบวนการทำงานว่าประกอบด้วยกระบวนการทำงานย่อยอะไรบ้างที่จะถูกพัฒนาขึ้นมา



แผนภาพกระแสข้อมูล (Dataflow diagram)
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนระบบใหม่ในการเขียนแผนภาพจำลองการทำงานของกระบวนการต่างๆในระบบ หรือเป็นแบบจำลองกระบวนการ(process model)ประเภทหนึ่ง ซึ่งนำมาใช้วิเคราะห์และออแบบระบบเชิงโครงสร้าง โดยแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการกับข้อมูล ใช้บรรยายภาพรวมของระบบ แสดงขั้นตอนการทำงานของระบบ ระบุแหล่งข้อมูล การไหลของข้อมูล ปลายทางข้อมูล การเก็บข้อมูล และการประมาวลผลข้อมูล

วัตถุประสงค์ของการสร้างภาพกระแสข้อมูล
-เป็นแผนภาพที่สรุปรวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการวิเคราะห์ในลักษณะของรูปแบบที่เป็นโครงสร้าง
-เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างนักวิเคราะห์ระบบและผู้ใช้งาน
-เป็นแผนภาพที่ใช้ในการพัฒนาต่อในขั้นตอนของการออกแบบระบบ
เป็นแผนภาพที่ใช้ในการอ้างอิง หรือเพื่อใช้ในการพัฒนาต่อในอนาคต
-ทราบที่มาที่ไปของข้อมูลที่ไหลไปในกระบวนการต่างๆ (data and process)




ขั้นตอนการดำเนินงาน(Process) เป็นงานที่ดำเนินการตอบสนองข้อมูลที่รับเข้า หรือ ดำเนินการตอบสนองต่อเงื่อนไขสภาวะใดๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าขั้นตอนการดำเนินงานนั้นจะกระทำโดยบุคคล หน่วยงาน หุ่นยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ตาม

แหล่งจัดเก็บข้อมูล (Data store) เป็นแหล่งเก็บและบันทึกข้อมูล เปรียบเสมือนคลังข้อมูล (เทียบเท่ากับไฟล์ข้อมูล และฐานข้อมูล) โดยอธิบายรายละเอียดและคุณสมบัติ เฉพาะตัวของสิ่งที่ต้องการเก็บและบันทึก สัญลักษณ์ที่ใช้อธิบาย คือ สี่เหลี่ยมเปิดหนึ่งข้าง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่1 ทางด้านซ้าย ใช้แสดงรหัส data store โดยอาจจะเป็นหมายเลขลำดับหรือตัวอักษรได้ เช่น D1 D2 เป็นต้น สำหรับส่วนที่ 2 ทางด้านขวา ใช้แสดงชื่อ data store

ตัวแทนข้อมูล(External agents) หมายถึงบุคคล หน่วยงานในองค์กร องค์กรอื่นๆ หรือระบบงานอื่นๆที่อยู่ภายนอกขอบเขตของระบบ แต่มีความสัมพันธ์กับระบบ โดยมีการส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อดำเนินงาน และรีบข้อมูลที่ผ่านการดำเนินงานเรียบร้อยแล้วจากระบบ สัญลักษณ์ที่ใช้อธิบาย คือ สี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในจะต้องแสดงชื่อตัวแทนข้อมูล โดยสามารถทำซ้ำได้ด้วยการใช้เครื่องหมาย \ (back slash)ตรงมุมล่างซ้าย


เส้นทางการไหลของข้อมูล(Data flow) เป็นการสื่อสารระหว่างขั้นตอนการทำงานต่างๆและสภาพแวดล้อมภายนอกหรือภายในระบบ โดยแสดงขึ้นข้อมูลที่นำเข้าและส่งออกไปในแต่ละขั้นตอน ใช้ในการแสดงถึงการบันทึกข้อมูล การลบข้อมูล และการแก้ไขข้อมูลต่างๆ สัญลักษณ์ที่ใช้อธิบายเส้นทางการไหลของข้อมูล คือ เส้นตรงที่ประกอบด้วยหัวลูกศร เพื่อบอกทิศทางการเดินทางหรือการไหลของข้อมูล

แผนภาพบริบท (Context diagram)
     เป็นแผนภาพการแสข้อมูลระดับบนสุดที่แสดงภาพรวมทั้งหมดของระบบที่มีความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมภายนอกระบบ ซึ่งประกอบด้วย กระบวนการเพียงกระบวนการเดียวนั่นคือ ระบบการศึกษา บุคคล ระบบภายนอก และการเคลื่อนที่ของข้อมูลจากภายนอกระบบสู่ระบบ



2.3)ออกแบบระบบ คือ ขั้นตอนการกำหนดวิธีการแก้ปัญหาต่างๆจากขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบ โดยขั้นตอนนี้่จะกำหนดขั้นตอนการทำงานโดยใช้แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน(flowchart)แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูล (Entity Relationship Diagram : ER Diagram) พจนานุกรมข้อมูล(Data dictionary) หน้าจอส่วนติดต่อกับผู้ใช้งาน(Graphic User Interface : GU) เทคโนโลยีต่างๆที่นำมาใช้กระบวนการแก้ปัญหาต่างๆ ของระะบบงาน ลักษณะการเขรยนชุดคำสั่งรวมถึงจัดทำเอกสารการออกแบบระบบ เช่น ลักษณะการจัดเก้บข้อมูลสมาชิก

2.4)พัฒนาระบบและทดสอบระบบ
     พัฒนาระบบและทดสอบระบบคือขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆเพื่อพัฒนาระบบโดยดำเนินงานตามการออกแบบจากขั้นตอนการออกแบบระบบเช่นการเขียนชุดคำสั่งต่างๆเพื่อสร้างซอฟต์แวร์การสร้างฐานข้อมูลเพื่อจัดเก็บข้อมูลจัดทำเอกสารพัฒนาระบบรวมถึงการทดสอบระบบงานว่าสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานจากขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบหรือไม่โดยทดสอบระบบในสภาพแวดล้อมจำลองและสภาพแวดล้อมจริงเป็นต้น

2.5)ติดตั้งระบบ
     คือขั้นตอนการนำซอฟต์แวร์ระบบงานใหม่ที่เสร็จสมบูรณ์มาติดตั้งในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงจะทำเอกสารติดตั้งระบบงานใหม่และคู่มือการใช้งานจัดฝึกอบรมผู้ใช้งานดำเนินการใช้ระบบงานใหม่ประเมินผลการใช้งานระบบงานใหม่เพื่อหาจุดบกพร่องต่างๆซึ่งการใช้งานระบบงานใหม่นั้นคนใช้งานควบคู่กับระบบงานเดิม (กรณีที่มีระบบงานเดิม)โดยใช้ข้อมูลชุดเดียวกันและเปรียบเทียบผลลัพธ์ว่าตรงกันหรือไม่หากถูกต้องตรงกันจึงนำระบบงานเดิมออกแล้วใช้ระบบงานใหม่แทนที่

2.6)บำรุงรักษาระบบ
     คือขั้นตอนการดูแลระบบต่างๆเช่นการแก้ไขจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริงการเพิ่มเติมความสามารถของระบบงานการปรับเปลี่ยนการทำงานบางประการให้ทันสมัยมากขึ้นเป็นต้นจากขั้นตอนการพัฒนาโครงงานทางเทคโนโลยีสามารถนำเอาหลักแนวคิดเชิงคำนวณเค้าไปประยุกต์ใช้ตั้งแต่การกำหนดปัญหาหลักใหญ่ของโครงงานและแยกแยะปัญหาเป็นปัญหาย่อยจากนั้นทำการหาแต่ดูในการแก้ปัญหาต่างๆ
บำรุงรักษาระบบคือขั้นตอนการดูแลระบบต่างๆเช่นการแก้ไขจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริงการเพิ่มเติมความสามารถของระบบงานการปรับเปลี่ยนการทำงานบางประการให้ทันสมัยมากขึ้นเป็นต้นจากขั้นตอนการพัฒนาโครงงานทางเทคโนโลยีสามารถนำเอาหลักแนวคิดเชิงคำนวณเค้าไปประยุกต์ใช้ตั้งแต่การกำหนดปัญหาหลักใหญ่ของโครงงานและแยกแยะปัญหาเป็นปัญหาย่อยจากนั้นทำการหาแต่ดูในการแก้ปัญหาต่างๆ




แนวคิดเชิงคำนวณ

     แนวคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) ไม่ใช่การคิดเหมือนหุ่นยนต์หรือการเขียนโปรแกรมดดยผู้เชี่ยวชาญ แต่เป็นทักษะที่มุ่งเน้นเชิงตรรกะ คือ สามารถ อธิบายการคิดเชิงคำนวณอย่างเป็นระบบ หรือเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน โดยการเข้าใจปัญหาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน โดยการเข้าใจปัญหาและวิธีการในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการแก้ไข้ปัญหาที่
มนุษย์และคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจร่วมกันได้